แชร์ประสบการณ์ทำใบขับขี่เยอรมัน (แบบทำใหม่เริ่มใหม่หมด ไม่ได้นำใบขับขี่ไทยมาแลก)
จริงๆ ตัวเองมีใบขับขี่ไทยมาแล้ว (แต่ดันหมดอายุ ตอนที่อยากจะทำใบขับขี่เยอรมันพอดี) ไม่มีเวลากลับไทยเลยจำใจต้องลงใหม่หมดค่ะเป็น full course กันเลยทีเดียว (คือถ้าใครมีใบขับขี่ไทยมา ก็จะประหยัดเงินไปได้เยอะ ไม่ต้องไปนั่งเรียนทฤษฏี แค่อ่านเอง ฝึกทำข้อสอบเอง แล้วไปสอบ)
ค่าใช้จ่ายสำหรับการทำใบขับขี่เยอรมัน
- First Aid 8 ชม. 30 ยูโร
- วัดสายตา 5 ยูโร
- รูปถ่าย (ไม่ได้เสีย เพราะใช้รูปเดิมที่เหลือจากทำวีซ่า)
***มีครบ 3 อย่าง ไปติดต่อ รร.ขับได้ หรือจะติดต่อไว้ก่อนก็ได้ แล้วไปสมัครทำใบขับขี่ที่ขนส่งของเมืองตัวเองค่ะ***
- ค่าสมัครทำใบขับขี่เยอรมัน 43.40 ยูโร
- Intensive course 1,996 ยูโร+ 50 ยูโร = 2,479.80 ยูโร (ค่าหนังสือภาษาอังกฤษจะแพงกว่าเยอรมัน) (หลักสูตรแบบเข้มข้น เรียนจบภายใน 2 สัปดาห์) แต่ของเราเรียนจริงๆ ก็ประมาณ 2 เดือน เพราะไม่รีบ และอยากสอบทฤษฏีให้ผ่านก่อน ถึงจะเริ่มเรียนขับรถค่ะ แต่หลักสูตรนี้เค้าให้เรียนขับพร้อมๆ กับทฤษฏีเลยก็ได้
* 11 Fahrstunden
* 12 Sonderfahrten
* See&Learn Paket ของ FAHREN LERNEN
* 1 Jahr ADAC Mitgliedschaft
สรุป รร. นี้คิดค่าขับรถ ชม. (45 นาที) ละ 41 ยูโร
ค่าสอบทฤษฏี 35 ยูโร (จ่ายให้ รร.ขับรถ) + 20.83 ยูโร (จ่ายให้ DEKRA)
ค่าสอบขับ 100 ยูโร (จ่ายให้ รร.ขับรถ) + 84.97 ยูโร (จ่ายให้ DEKRA)
แปลว่าถ้าสอบตกทฤษฏีต้องจ่ายใหม่ทั้งหมด 55.83 ยูโร ถ้าตกสอบขับจ่าย 184.97 ยูโร นะจร้า (ค่าสอบแต่ละ รร. คิดไม่เท่ากันนะค่ะ โปรดสอบถามที่ รร.ขับรถ โดยตรง)
- เรียนขับเพิ่มก่อนสอบไป 8 ชม. (41x8=328 ยูโร)
- สอบขับตกไป 1 ครั้ง (จ่ายค่าเรียนเพิ่ม 2 ชม. (82 ยูโร) + ค่าสอบขับ 184.97 ยูโร (รวม 266.97 ยูโร)
- ค่านำรถตัวเองไปฝึกขับในสนามขับรถ (ชม. ละ 8 ยูโร) (รวม 16 ยูโร)
- สอบขับตกครั้งที่ 2 จ่ายไป 184.97 ยูโร (นำรถไปฝึกขับเอง 2 ชม. 16 ยูโร)
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 3,046.97 ยูโร
ภาคทฤษฏี (สอบเป็นภาษาอังกฤษ)
- ตอนไปสมัครทำใบขับขี่ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยนะค่ะว่าเราจะสอบเป็นภาษาอะไร (มันจะไปขึ้นในระบบวันที่เราไปสอบ เพราะฉะนั้นจะขอเปลี่ยนภาษาวันสอบไม่ได้ค่ะ)
- แนะนำว่าให้ฝึกทำข้อสอบจากแอพ หรือของ รร.ขับรถที่ให้มา (เน้นข้อสอบอย่างเดียวไปเลย ไ่ม่ต้องเน้นอ่านหนังสือมากค่ะ) โดยให้อ่านข้อสอบแยกเป็นบทๆ ไป สำหรับ Class B มี 14 บท การอ่านเป็นบทจะทำให้เราจัดลำดับการจำง่ายกว่าการฝึกทำข้อสอบแบบ mix ค่ะ ก็ทำไปทีละบทจนกว่าบทนั้นจะไม่ผิด หรือผิดน้อยสุดค่ะ
- ข้อสอบจะเหมือนกับตัวอย่างเป๊ะๆ แต่เค้าจะสุ่มมาแค่ 30 ข้อ (ตอนเราสอบมีข้อสอบมาให้ทำ 1049 ข้อ ^^!)
- ข้อสอบภาษาอังกฤษมันแปลได้งงงวยมากๆ ถ้าใครพอมีพื้นเยอรมัน แนะนำให้สอบเยอรมันจะดีกว่าค่ะ แต่ถ้าสอบภาษาอังกฤษก็อาจจะไม่ต้องสนใจแกรมม่า หรือความตรงๆ ของการแปลจากเยอรมันมาเป็นอังกฤษมาก เอาแค่จำคำถาม กับคำตอบไปก็พอค่ะ (เปิดดิกเฉพาะคำที่แบบไม่เข้าใจจริงๆ ก็พอ)
- วันสอบทำใจให้สบาย ลุยเลยคร้า ^^
ภาคปฏิบัติ (สอบขับที่เรียกได้ว่าหิน และขึ้นอยู่กับดวงด้วยจริงๆ นะ 555)
สอบขับครั้งที่ 1
- ไม่มีคำถามใดๆ ขึ้นรถให้ขับไปเลย (ที่ไม่มีอาจจะเพราะว่าตัวเองฟังเยอรมันไม่รู้เรื่อง เค้าเลยไม่ถามมั้ง 555)
- ขับโซน 30 km/h ระวังขวาก่อนซ้าย (ทุกแยก) ขับเกียร์ 3 ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง หรือแค่แตะๆ ให้เลขอยู่เหนือ 25 นิดๆ (อันนี้เทคนิคตัวเองนะค่ะ)
- จอด parallel
- ขับผ่านวงเวียน/แยกไฟแดง
- ขับ country road (70 km/h)
- ขับบน Autobahn
- ขับโชน 50 km/h ขับเกียร์ 4 หรือ 5 แค่แตะๆ (อันนี้เทคนิคตัวเองนะค่ะ)
- ขับโซน Pedestrian zone (Traffic-claming zone) ขับเกียร์ 1 ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง walking speed
- กลับรถ (แบบประมาณว่าบอกว่ามาผิดทาง ให้กลับรถ)
- Emergency break
- ป้าย STOP (มาตกม้าตายป้าย STOP ที่ 2 ตอนขับกลับตรงนี้ เพราะถนนดันโล่งพอดี เลยลืมหยุดแบบสนิทๆๆๆๆๆๆ ก็เบรกนะ แต่ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหล ตกเลย อุตส่าห์ดีใจว่าใกล้ผ่านแล้ว หือๆ แฟนบอกว่าเวลาสอบขับห้ามดูนาฬิกา ไม่งั้นเราจะสติหลุด)
*** ระหว่างขับเค้าจะประเมินเราตลอดนะค่ะ
- ดูกระจกหลัง กระจกข้างบ่อยๆ
- ดูกระจกหลังก่อนเบรก
- มองข้ามหัวไหล่ทุกครั้งที่เปลี่ยนเลน เลี้ยว สิ้นสุดทางจักรยาน แซงรถที่จอด (เปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง)
- ความเร็วห้ามเกิน และห้ามช้ามากกว่าที่กำหนด
- ชะลอความเร็วตรงทางม้าลาย (อันนี้ตอนสอบไม่เจอทางม้าลาย) เจอคนยืนให้จอด เพื่อให้คน หรือจักรยานข้าม
สอบขับครั้งที่ 2
- ไม่มีคำถามใดๆ ขึ้นรถขับไปเลย
- ขับโซน 30 แยกขวาก่อนซ้าย (เราชะลอรถแล้ว แต่ว่าไม่เห็นว่ามีรถมาก็เลยออกตัว พอออกตัวไปได้ครึ่งแยก เพิ่งเห็นว่ามีรถมาเลยไม่หยุด เพราะคิดว่าเราขับผ่านมาครึ่งแยกแล้ว) ตกเลยสิคร้า รออะไร ขับกลับภายใน 5 นาที (184.97 ยูโร หายไปในพริบตา) อยากจะร้องไห้มาก เซ็งทุกสิ่งอย่าง
สอบขับครั้งที่ 3
ฟ้าฝนเป็นใจมาก ด้วยการพรมน้ำมนต์ให้ทั้งวัน
- รอบนี้เจอไป 3 คำถาม ถามเกี่ยวกับระบบแสดงไฟในรถ ว่าอันไหนไฟสูง สัญญาณฉุกเฉิน และแตร์รถ
- ขับไปโชน 30 ระวังขวาก่อนซ้ายเหมือนเดิม
- จอด parallel อันนี้โดนครูเหยียบเบรก ตอนจะปิดจ็อบ (คือขับเดินหน้านิดเดียว) แต่เราเห็นว่ารถมันห่างจากขอบถนนเกิน 30 ชม. เราก็เลยหักรถเข้านิดหน่อย แต่ครูหวงยางรถยนต์ บอกว่าขอโทษนะที่ต้องเหยียบเพราะยางรถราคาแพง แต่โชคดีคนคุมสอบเค้าบอกว่าเราจอดโอเค เค้าไม่ให้ตก ก็ได้ขับต่อ
- ขับรถถนน one-way อันนี้ให้สังเกตป้ายดีๆ นะค่ะว่ามันสิ้นสุดถนน one-way ตรงไหน เพราะถ้าเลี้ยวซ้ายถนน one-way จะต้องขับมาเลนซ้าย
- ขับเข้าวงเวียน
- ขับ autobahn
- รอบนี้ไม่ต้องทำเบรกฉุกเฉิน (ครูใจดีมากๆ)
- โดนเตือนเรื่องขับรถช้า คือเค้าบอกว่าโซน 30 ให้ขับ 30 ขับ 20 ไม่โอเค โซน 50 ให้ขับ 50 ประมาณนี้
- ถอดหลังจอดเข้าซอง (เป็นอันเสร็จพิธีสอบ)
ได้ใบขับขี่มาครอบครอง เย้ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น