วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559

แชร์ประสบการณ์ทำใบขับขี่เยอรมัน (แบบทำใหม่เริ่มใหม่หมด ไม่ได้นำใบขับขี่ไทยมาแลก)

แชร์ประสบการณ์ทำใบขับขี่เยอรมัน (แบบทำใหม่เริ่มใหม่หมด ไม่ได้นำใบขับขี่ไทยมาแลก)

จริงๆ ตัวเองมีใบขับขี่ไทยมาแล้ว (แต่ดันหมดอายุ ตอนที่อยากจะทำใบขับขี่เยอรมันพอดี) ไม่มีเวลากลับไทยเลยจำใจต้องลงใหม่หมดค่ะเป็น full course กันเลยทีเดียว (คือถ้าใครมีใบขับขี่ไทยมา ก็จะประหยัดเงินไปได้เยอะ ไม่ต้องไปนั่งเรียนทฤษฏี แค่อ่านเอง ฝึกทำข้อสอบเอง แล้วไปสอบ)

ค่าใช้จ่ายสำหรับการทำใบขับขี่เยอรมัน
- First Aid 8 ชม. 30 ยูโร
- วัดสายตา 5 ยูโร
- รูปถ่าย (ไม่ได้เสีย เพราะใช้รูปเดิมที่เหลือจากทำวีซ่า)
***มีครบ 3 อย่าง ไปติดต่อ รร.ขับได้ หรือจะติดต่อไว้ก่อนก็ได้ แล้วไปสมัครทำใบขับขี่ที่ขนส่งของเมืองตัวเองค่ะ***
- ค่าสมัครทำใบขับขี่เยอรมัน 43.40 ยูโร
- Intensive course 1,996 ยูโร+ 50 ยูโร = 2,479.80 ยูโร (ค่าหนังสือภาษาอังกฤษจะแพงกว่าเยอรมัน) (หลักสูตรแบบเข้มข้น เรียนจบภายใน 2 สัปดาห์) แต่ของเราเรียนจริงๆ ก็ประมาณ 2 เดือน เพราะไม่รีบ และอยากสอบทฤษฏีให้ผ่านก่อน ถึงจะเริ่มเรียนขับรถค่ะ แต่หลักสูตรนี้เค้าให้เรียนขับพร้อมๆ กับทฤษฏีเลยก็ได้
      * 11 Fahrstunden
      * 12 Sonderfahrten
      * See&Learn Paket ของ FAHREN LERNEN
      * 1 Jahr ADAC Mitgliedschaft
    สรุป รร. นี้คิดค่าขับรถ ชม. (45 นาที) ละ 41 ยูโร
    ค่าสอบทฤษฏี 35 ยูโร (จ่ายให้ รร.ขับรถ) + 20.83 ยูโร (จ่ายให้ DEKRA)
    ค่าสอบขับ 100 ยูโร (จ่ายให้ รร.ขับรถ) + 84.97 ยูโร (จ่ายให้ DEKRA)
    แปลว่าถ้าสอบตกทฤษฏีต้องจ่ายใหม่ทั้งหมด 55.83 ยูโร ถ้าตกสอบขับจ่าย 184.97 ยูโร นะจร้า (ค่าสอบแต่ละ รร. คิดไม่เท่ากันนะค่ะ โปรดสอบถามที่ รร.ขับรถ โดยตรง)
- เรียนขับเพิ่มก่อนสอบไป 8 ชม. (41x8=328 ยูโร)
- สอบขับตกไป 1 ครั้ง (จ่ายค่าเรียนเพิ่ม 2 ชม. (82 ยูโร) + ค่าสอบขับ 184.97 ยูโร (รวม 266.97 ยูโร)
- ค่านำรถตัวเองไปฝึกขับในสนามขับรถ (ชม. ละ 8 ยูโร) (รวม 16 ยูโร)
- สอบขับตกครั้งที่ 2 จ่ายไป 184.97 ยูโร (นำรถไปฝึกขับเอง 2 ชม. 16 ยูโร)

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 3,046.97 ยูโร

ภาคทฤษฏี (สอบเป็นภาษาอังกฤษ)
- ตอนไปสมัครทำใบขับขี่ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยนะค่ะว่าเราจะสอบเป็นภาษาอะไร (มันจะไปขึ้นในระบบวันที่เราไปสอบ เพราะฉะนั้นจะขอเปลี่ยนภาษาวันสอบไม่ได้ค่ะ)
- แนะนำว่าให้ฝึกทำข้อสอบจากแอพ หรือของ รร.ขับรถที่ให้มา (เน้นข้อสอบอย่างเดียวไปเลย ไ่ม่ต้องเน้นอ่านหนังสือมากค่ะ) โดยให้อ่านข้อสอบแยกเป็นบทๆ ไป สำหรับ Class B มี 14 บท การอ่านเป็นบทจะทำให้เราจัดลำดับการจำง่ายกว่าการฝึกทำข้อสอบแบบ mix ค่ะ ก็ทำไปทีละบทจนกว่าบทนั้นจะไม่ผิด หรือผิดน้อยสุดค่ะ
- ข้อสอบจะเหมือนกับตัวอย่างเป๊ะๆ แต่เค้าจะสุ่มมาแค่ 30 ข้อ (ตอนเราสอบมีข้อสอบมาให้ทำ 1049 ข้อ ^^!)
- ข้อสอบภาษาอังกฤษมันแปลได้งงงวยมากๆ ถ้าใครพอมีพื้นเยอรมัน แนะนำให้สอบเยอรมันจะดีกว่าค่ะ แต่ถ้าสอบภาษาอังกฤษก็อาจจะไม่ต้องสนใจแกรมม่า หรือความตรงๆ ของการแปลจากเยอรมันมาเป็นอังกฤษมาก เอาแค่จำคำถาม กับคำตอบไปก็พอค่ะ (เปิดดิกเฉพาะคำที่แบบไม่เข้าใจจริงๆ ก็พอ)
- วันสอบทำใจให้สบาย ลุยเลยคร้า ^^

ภาคปฏิบัติ (สอบขับที่เรียกได้ว่าหิน และขึ้นอยู่กับดวงด้วยจริงๆ นะ 555)
สอบขับครั้งที่ 1
- ไม่มีคำถามใดๆ ขึ้นรถให้ขับไปเลย (ที่ไม่มีอาจจะเพราะว่าตัวเองฟังเยอรมันไม่รู้เรื่อง เค้าเลยไม่ถามมั้ง 555)
- ขับโซน 30 km/h ระวังขวาก่อนซ้าย (ทุกแยก) ขับเกียร์ 3 ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง หรือแค่แตะๆ ให้เลขอยู่เหนือ 25 นิดๆ (อันนี้เทคนิคตัวเองนะค่ะ)
- จอด parallel
- ขับผ่านวงเวียน/แยกไฟแดง
- ขับ country road (70 km/h)
- ขับบน Autobahn
- ขับโชน 50 km/h ขับเกียร์ 4 หรือ 5 แค่แตะๆ (อันนี้เทคนิคตัวเองนะค่ะ)
- ขับโซน Pedestrian zone (Traffic-claming zone) ขับเกียร์ 1 ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง walking speed
- กลับรถ (แบบประมาณว่าบอกว่ามาผิดทาง ให้กลับรถ)
- Emergency break
- ป้าย STOP (มาตกม้าตายป้าย STOP ที่ 2 ตอนขับกลับตรงนี้ เพราะถนนดันโล่งพอดี เลยลืมหยุดแบบสนิทๆๆๆๆๆๆ ก็เบรกนะ แต่ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหล ตกเลย อุตส่าห์ดีใจว่าใกล้ผ่านแล้ว หือๆ แฟนบอกว่าเวลาสอบขับห้ามดูนาฬิกา ไม่งั้นเราจะสติหลุด)
*** ระหว่างขับเค้าจะประเมินเราตลอดนะค่ะ
    - ดูกระจกหลัง กระจกข้างบ่อยๆ
    - ดูกระจกหลังก่อนเบรก
    - มองข้ามหัวไหล่ทุกครั้งที่เปลี่ยนเลน เลี้ยว สิ้นสุดทางจักรยาน แซงรถที่จอด (เปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง)
    - ความเร็วห้ามเกิน และห้ามช้ามากกว่าที่กำหนด
    - ชะลอความเร็วตรงทางม้าลาย (อันนี้ตอนสอบไม่เจอทางม้าลาย) เจอคนยืนให้จอด เพื่อให้คน หรือจักรยานข้าม

สอบขับครั้งที่ 2
- ไม่มีคำถามใดๆ ขึ้นรถขับไปเลย
- ขับโซน 30 แยกขวาก่อนซ้าย (เราชะลอรถแล้ว แต่ว่าไม่เห็นว่ามีรถมาก็เลยออกตัว พอออกตัวไปได้ครึ่งแยก เพิ่งเห็นว่ามีรถมาเลยไม่หยุด เพราะคิดว่าเราขับผ่านมาครึ่งแยกแล้ว) ตกเลยสิคร้า รออะไร ขับกลับภายใน 5 นาที (184.97 ยูโร หายไปในพริบตา) อยากจะร้องไห้มาก เซ็งทุกสิ่งอย่าง

สอบขับครั้งที่ 3
ฟ้าฝนเป็นใจมาก ด้วยการพรมน้ำมนต์ให้ทั้งวัน
- รอบนี้เจอไป 3 คำถาม ถามเกี่ยวกับระบบแสดงไฟในรถ ว่าอันไหนไฟสูง สัญญาณฉุกเฉิน และแตร์รถ
- ขับไปโชน 30 ระวังขวาก่อนซ้ายเหมือนเดิม
- จอด parallel อันนี้โดนครูเหยียบเบรก ตอนจะปิดจ็อบ (คือขับเดินหน้านิดเดียว) แต่เราเห็นว่ารถมันห่างจากขอบถนนเกิน 30 ชม. เราก็เลยหักรถเข้านิดหน่อย แต่ครูหวงยางรถยนต์ บอกว่าขอโทษนะที่ต้องเหยียบเพราะยางรถราคาแพง แต่โชคดีคนคุมสอบเค้าบอกว่าเราจอดโอเค เค้าไม่ให้ตก ก็ได้ขับต่อ
- ขับรถถนน one-way อันนี้ให้สังเกตป้ายดีๆ นะค่ะว่ามันสิ้นสุดถนน one-way ตรงไหน เพราะถ้าเลี้ยวซ้ายถนน one-way จะต้องขับมาเลนซ้าย
- ขับเข้าวงเวียน
- ขับ autobahn
- รอบนี้ไม่ต้องทำเบรกฉุกเฉิน (ครูใจดีมากๆ)
- โดนเตือนเรื่องขับรถช้า คือเค้าบอกว่าโซน 30 ให้ขับ 30 ขับ 20 ไม่โอเค โซน 50 ให้ขับ 50 ประมาณนี้
- ถอดหลังจอดเข้าซอง (เป็นอันเสร็จพิธีสอบ)
ได้ใบขับขี่มาครอบครอง เย้ๆ

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

Routine my baby at 1.5 years

วันที่ไปเดย์แคร์

7.30 ตื่นนอน
8.00 อาหารเช้า
8.30 ไปเดย์แคร์
11.00 อาหารกลางวัน
12.00 nap กลางวัน
14.30 ไปรับกลับจากเดย์แคร์
15.00 ขนม/ของว่าง
17.00 อาหารเย็น
18.00 อาบน้ำ
19.00 Brest feeding/แปรงฟัน
19.30 เข้าห้องนอน อ่านหนังสือก่อนนอน เล่นเฟชการ์ด (ส่วนใหญ่จะอ่านหนังสือกัน)
20.00/20.30 หลับ
03.00 ตื่นมาดูดนมแล้วหลับต่อถึงเช้า

วันที่อยู่บ้านกับพ่อ-แม่

7.30 ตื่นนอน
8.00 อาหารเช้า
8.30 กิจกรรม/เล่น
11.00 อาหารกลางวัน
12.30 Breast feeding/ nap กลางวัน (1-2 ชั่วโมง แต่ปกติถ้านอนกลางวันที่บ้านก็ 2 ชม.)
14.30/15.00 ขนม/ของว่าง/เล่น หรือพาออกไปเดินเล่น
17.00 อาหารเย็น
18.00 อาบน้ำ
19.00 Breast feeding/แปรงฟัน
19.30 เข้าห้องนอน อ่านหนังสือก่อนนอน เล่นเฟชการ์ด (ส่วนใหญ่จะอ่านหนังสือกัน)
20.00/20.30 หลับ
03.00 ตื่นมาดูดนมแล้วหลับต่อถึงเช้า